เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2553 เวลา 10.30 – 11.30 น. สนร.ริยาด โดย นายชัยยศ อยู่ทรัพย์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ได้มอบหมายให้พันจ่าเอกบัญชา ชื่นชม ที่ปรึกษา(ฝ่ายแรงงาน) และนายหมัด มะมิน ล่าม ไปเข้าพบพันตำรวจเอกโมฮำหมัด อัล อานาซีย์ ผู้อำนวยการกองเนรเทศ กรุงริยาด เพื่อหารือเกี่ยวกับการประกาศนิรโทษกรรมแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ที่ทางกระทรวงมหาดไทยของประเทศซาอุดีอาระเบีย ประกาศเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2553 ว่า มีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไร เพื่อนำมาประชาสัมพันธ์ให้กับแรงงานไทย โดยได้รับแจ้งว่าผู้ที่ได้รับการนิรโทษกรรม คือ บุคคลที่เดินทางเข้าประเทศซาอุดีอาระเบีย ด้วยวีซ่าฮัจย์ วีซ่าอุมเราะห์ วีซ่าเยี่ยมเยียน วีซ่าอื่น ๆ และผู้ลักลอบข้ามพรหมแดนตามเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเข้ามาพำนักอาศัยเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดตามที่ระบุไว้ในวีซ่า หากประสงค์จะเดินทางกลับประเทศของตน ให้มาติดต่อด้วยตนเอง ณ กองเนรเทศ ที่ตั้งอยู่ใกล้ โดยจะไม่ถูกจำคุก และไม่เสียค่าปรับ เพื่อกองเนรเทศ จะได้จัดเก็บลายนิ้วมือของบุคคลนั้นไว้เป็นหลักฐาน และจะถูกห้ามเข้าประเทศ เป็นเวลา 5 ปี จากนั้น จะออกวีซ่าขาออก ส่งแรงงานต่างชาติกลับประเทศภูมิลำเนาต่อไป โดยแรงงานต่างชาติ ต้องมีเอกสารหนังสือเดินทาง และตั๋วโดยสารเครื่องบิน การนิรโทษกรรมครั้งนี้ มีห้วงระยะเวลา 6 เดือน ระหว่างวันที่ 25 กันยายน 2553 ถึงวันที่ 24 มีนาคม 2554
สำหรับแรงงานต่างชาติที่หลบหนีนายจ้าง จะไม่อยู่ในข่ายการได้รับประโยชน์จากการประกาศนิรโทษกรรมในครั้งนี้ ผู้ที่หลบหนีนายจ้าง หากประสงค์จะเดินทางออกจากประเทศ เพื่อกลับประเทศภูมิลำเนาของตนนั้นต้องติดตามตัวนายจ้าง มาแสดงตน ยืนยันว่า ไม่มีข้อเรียกร้องใด ๆ จากคนงาน โดยทำเป็นหนังสือ และไม่ขัดข้องที่ทางกองเนรเทศ จะส่งแรงงานต่างชาติกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และนายจ้าง ต้องเสียค่าธรรมเนียม การต่อใบถิ่นพำนัก (อิกาม่า) ต่อทางการซาอุดีอาระเบียหากนายจ้างแจ้งความแรงงานต่างชาติหลบหนีไว้แล้ว แรงงานต่างชาติจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเสียค่าธรรมเนียมในส่วนนี้เอง
สนร.ริยาด จึงขอประชาสัมพันธ์ให้กับแรงงานไทยที่อยู่อย่างผิดกฎหมายในประเทศซาอุดีอาระเบีย และประสงค์จะกลับประเทศไทย ได้รับทราบโดยทั่วกัน